อยากมีน้ำสะอาดใช้ เลือกซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี

น้ำสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสุขภาพของคนในครอบครัว น้ำดื่ม ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่ร่างกายของคนเรานั้นต้องการ เพื่อช่วยดับกระหาย ควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกาย ช่วยขับของเสีย และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในปัจจุบันน้ำดื่มหลายๆ แห่งนั้นไม่มีคุณภาพ ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาและบังคับใช้กฎหมายควบคุมคุณภาพน้ำก็ตาม แต่ยังมีรายงานการพบสารปนเปื้อนในน้ำประปาและน้ำดื่มบรรจุขวดอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นการติดตั้ง เครื่องกรองน้ำ จึงถือเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้เราได้น้ำดื่มที่มีความสะอาด แต่จะเลือกเครื่องกรองน้ำยี่ห้อไหน ใช้เครื่องกรองน้ำแบบไหนดี

ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี ควรพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้เครื่องกรองน้ำที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ซึ่งการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี สามารถพิจารณาได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการใช้งาน ขนาด และรูปแบบในการกรองน้ำ
1. เลือกตามรูปแบบการใช้งาน
เครื่องกรองน้ำนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ แต่ละแบบก็จะมีประสิทธิภาพในการกรองที่มีความแตกต่างกัน แต่ก่อนที่จะซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี จะต้องพิจารณาถึงรูปแบบในการใช้งานก่อนเสมอ เพื่อสำรวจว่ารูปแบบในการใช้ชีวิตของเรานั้นเหมาะกับเครื่องกรองน้ำแบบได้ โดยที่จะได้ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก ซื้อเครื่องกรองน้ำที่เกินความจำเป็น
2. เลือกตามขนาด
ในปัจจุบันมีเครื่องกรองน้ำด้วยกันหลายขนาด ตั้งแต่เครื่องกรองน้ำขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ หากเป็นครอบครัวขนาดเล็ก มีสมาชิก 1-3 คนการเลือกเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กก็เพียงพอต่อการใช้งาน อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่ และไม่ต้องมีการบำรุงรักษาที่ยุ่งยาก แต่ในกรณีที่ต้องใช้เครื่องกรองน้ำภายในชุมชน ควรเลือกเครื่องกรองขนาดใหญ่ ที่สามารถกรองได้ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ และจ่ายน้ำได้ในปริมาณที่มาก เพื่อให้คนในชุมชนสามารถใช้น้ำได้อย่างทั่วถึง
3. เลือกแบบที่กรองน้ำได้ทุกประเภท
อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยในการพิจารณาเลือกเครื่องกรองน้ำแบบไหนดีคือ ประเภทในการกรอง เพราะเครื่องกรองน้ำแต่ละตัวมีฟังก์ชันการกรองที่ต่างกัน บางเครื่องกรองเฉพาะน้ำใช้ บางเครื่องกรองเฉพาะน้ำดื่ม หรือบางเครื่องสามารถกรองได้ทั้งน้ำใช้และน้ำดื่ม ดังนั้นก่อนซื้อควรพิจารณาว่าต้องการน้ำแบบใดบ้าง เพื่อที่จะได้เลือกเครื่องกรองน้ำให้ตอบโจทย์การใช้งานอย่างลงตัว

เครื่องกรองน้ำมีกี่แบบ เลือกเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี

เมื่อเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำเอง หลายคนอาจเจอปัญหาว่าไม่รู้จะเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหน หรือ ระบบไหนดีถึงตอบโจทย์สุขภาพและค่าใช้จ่ายได้พร้อมกัน ซึ่งหากใครที่กำลังสงสัยแบบเดียวกันนี้อยู่ เราอยากขอให้ลองเริ่มต้นง่าย ๆ จากการทำความเข้าใจถึงประเภทของเครื่องกรองน้ำดูก่อน โดยหลัก ๆ แล้ว เครื่องกรองน้ำจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ คือ
1. เครื่องกรองน้ำ UV (Ultra Violet)
– ใช้แสง UV ฆ่าเชื้อโรค พร้อมกรองสิ่งสกปรก กลิ่นไม่พึงประสงค์ และสารปนเปื้อนต่าง ๆ ออกจากน้ำประปา
– คงแร่ธาตุในน้ำเอาไว้ ทำให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุเต็มที่
– ติดตั้งง่าย มีอายุการใช้งานนาน

2. เครื่องกรองน้ำ UF (Ultra Filtration)
– ต่อยอดมาจากเครื่องกรองน้ำระบบ UV และมีไส้กรอง Protect Bacteria (PTB) เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองน้ำ และมีอายุการใช้งานนาน
– กรองน้ำสะอาด ได้แร่ธาตุครบถ้วน
– หากใครไม่รู้ว่าจะใช้เครื่องกรองประเภทไหนดีและตัดสินใจใช้เครื่องกรองน้ำ UF ก็จะต้องหมั่นทำความสะอาดไส้กรองเป็นประจำเพื่อล้างสิ่งสกปรกและเชื้อโรคออก
– เครื่องกรองน้ำ UF ไม่เหมาะจะใช้กรองน้ำบาดาล

3. เครื่องกรองน้ำ RO (Reverse Osmosis)
– มีกระบวนการกรองน้ำ 5 ขั้นตอน และมีไส้กรองแบบพิเศษทำให้ได้น้ำสะอาดถึง 99.99%
– ใช้ได้ทั้งกับน้ำประปาทั่วไป น้ำประปาเค็ม และน้ำบาดาล
– ถึงจะใช้งานได้นาน แต่เครื่องกรองน้ำ RO จะมีราคาสูง อีกทั้งการกรองที่เข้มข้นและซับซ้อนยังทำให้แร่ธาตุต่าง ๆ ในน้ำหายไป ทำให้ร่างกายไม่ได้ประโยชน์จากน้ำเท่าที่ควร

การเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งประเภทเครื่องกรอง เทคโนโลยีการกรอง ความต้องการใช้งาน และงบประมาณ การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้เครื่องกรองน้ำมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีประสิทธิภาพ การลงทุนในเครื่องกรองน้ำคุณภาพดีถือเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่คุ้มค่าในระยะยาว

เลือกซื้อเครื่องกรองน้ำอย่างไรให้ได้น้ำสะอาดปลอดภัยสำหรับครอบครัว

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ การดื่มน้ำสะอาดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพของเราและครอบครัว ในปัจจุบัน เครื่องกรองน้ำได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในหลายครัวเรือน เนื่องจากช่วยให้มั่นใจได้ว่าน้ำที่เราดื่มนั้นสะอาดและปลอดภัย แต่การเลือกซื้อ เครื่องกรองน้ำ ที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด  จะแนะนำวิธีการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณและครอบครัว
1. ทำความเข้าใจคุณภาพน้ำในพื้นที่
ก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจคุณภาพน้ำในพื้นที่
– ตรวจสอบรายงานคุณภาพน้ำประจำปีจากหน่วยงานท้องถิ่น
– พิจารณาการทดสอบน้ำด้วยตัวเองโดยใช้ชุดทดสอบคุณภาพน้ำที่มีจำหน่ายทั่วไป
– สังเกตลักษณะทางกายภาพของน้ำ เช่น สี กลิ่น และรสชาติ
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกระบบกรองน้ำที่เหมาะสมกับสภาพน้ำในพื้นที่ของคุณได้ดียิ่งขึ้น

2. เข้าใจประเภทของเครื่องกรองน้ำ
มีเครื่องกรองน้ำหลายประเภทให้เลือก แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน
2.1 เครื่องกรองน้ำแบบคาร์บอน
– ข้อดี: กำจัดคลอรีน สารอินทรีย์ และปรับปรุงรสชาติของน้ำได้ดี
– ข้อเสีย: ไม่สามารถกำจัดแร่ธาตุที่ละลายในน้ำหรือเชื้อโรคได้
2.2 เครื่องกรองน้ำแบบ Reverse Osmosis (RO)
– ข้อดี: กำจัดสารปนเปื้อนได้หลากหลาย รวมถึงแร่ธาตุที่ละลายในน้ำ
– ข้อเสีย: ใช้น้ำมาก และอาจต้องเพิ่มแร่ธาตุกลับเข้าไปในน้ำ
2.3 เครื่องกรองน้ำแบบ UV
– ข้อดี: ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– ข้อเสีย: ไม่สามารถกำจัดสารเคมีหรือแร่ธาตุได้
2.4 เครื่องกรองน้ำแบบเซรามิก
– ข้อดี: กรองสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่และบางเชื้อโรคได้ดี
– ข้อเสีย: ไม่สามารถกำจัดสารเคมีละลายน้ำได้

3. พิจารณาความต้องการใช้งาน
คำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้เมื่อเลือกเครื่องกรองน้ำ
– ปริมาณน้ำที่ต้องการใช้ต่อวัน
– พื้นที่ติดตั้งที่มีอยู่
– งบประมาณสำหรับการซื้อและบำรุงรักษา
– ความถี่ในการเปลี่ยนไส้กรอง

4. เปรียบเทียบประสิทธิภาพการกรอง
ตรวจสอบว่าเครื่องกรองน้ำสามารถกำจัดสารปนเปื้อนที่เป็นปัญหาในน้ำของคุณได้หรือไม่ โดยดูจาก
– ใบรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น NSF International
– ข้อมูลประสิทธิภาพการกรองจากผู้ผลิต
– รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง

5. พิจารณาค่าใช้จ่ายในระยะยาว
นอกจากราคาซื้อเครื่องแล้ว ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาวด้วย
– ค่าไส้กรองที่ต้องเปลี่ยนเป็นประจำ
– ค่าไฟฟ้า (สำหรับเครื่องกรองน้ำบางประเภท)
– ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซม

6. ตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม
เครื่องกรองน้ำสมัยใหม่อาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่น่าสนใจ เช่น
– ระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง
– ระบบทำน้ำร้อน-เย็นในตัว
– การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำ

พิจารณาว่าคุณสมบัติเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับคุณหรือไม่

7. อ่านรีวิวและเปรียบเทียบแบรนด์
ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรทำการบ้านด้วยการ
– อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงในเว็บไซต์ต่างๆ
– เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแบรนด์ชั้นนำ
– สอบถามความคิดเห็นจากคนรู้จักที่ใช้เครื่องกรองน้ำ

8. ตรวจสอบการรับประกันและบริการหลังการขาย
เลือกซื้อจากบริษัทที่ให้
– การรับประกันที่ครอบคลุมและมีระยะเวลาเหมาะสม
– บริการหลังการขายที่ดี เช่น การติดตั้ง การซ่อมบำรุง
– ความพร้อมของอะไหล่และไส้กรอง

9. พิจารณาการติดตั้งและการบำรุงรักษา
– ตรวจสอบว่าคุณสามารถติดตั้งเครื่องกรองน้ำได้เองหรือต้องจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญ
– พิจารณาความยากง่ายในการบำรุงรักษาและเปลี่ยนไส้กรอง
– ศึกษาวิธีการทำความสะอาดและดูแลรักษาเครื่องกรองน้ำอย่างถูกต้อง

10. ทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ
หากเป็นไปได้ ควรทดลองใช้เครื่องกรองน้ำก่อนตัดสินใจซื้อ
– ขอทดลองใช้จากร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่าย
– สอบถามเพื่อนหรือครอบครัวที่ใช้เครื่องกรองน้ำรุ่นที่คุณสนใจ
– เปรียบเทียบรสชาติและคุณภาพของน้ำก่อนและหลังการกรอง

การเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและครอบครัวในระยะยาว การพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ตั้งแต่คุณภาพน้ำในพื้นที่ของคุณ ประเภทของเครื่องกรอง ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาวและการบริการหลังการขาย จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องกรองน้ำที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง

อย่าลืมว่า เครื่องกรองน้ำ ที่ดีที่สุดคือเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพน้ำและไลฟ์สไตล์ของคุณ ดังนั้น ควรใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบตัวเลือกต่างๆ อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ การลงทุนในเครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณและครอบครัวได้ดื่มน้ำสะอาด ปลอดภัย และมีรสชาติที่ดีในระยะยาว