น้ำคือสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต แต่ในยุคปัจจุบัน เราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าน้ำที่เราใช้หรือดื่มนั้นสะอาดและปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ การมี
เครื่องกรองน้ำ ติดตั้งไว้ในบ้านจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายครัวเรือนให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น ไปรู้จักกับประเภทของเครื่องกรองน้ำ วิธีเลือกใช้งาน รวมถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการติดตั้งเครื่องกรองน้ำอย่างครบถ้วน
ทำไมต้องใช้เครื่องกรองน้ำ?
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมน้ำประปาที่ผ่านการบำบัดมาแล้วถึงยังต้องใช้ เครื่องกรองน้ำ คำตอบคือ น้ำที่ส่งถึงบ้านเรือนแม้จะผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว แต่ยังอาจมีสารเคมี คลอรีน ตะกอน สนิม หรือแม้แต่เชื้อโรคบางชนิดตกค้างอยู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ปัญหาน้ำประปาในปัจจุบัน
- กลิ่นคลอรีนแรง
- มีตะกอนหรือสนิมปนเปื้อน
- มีรสชาติแปลก
- มีเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่ระบบบำบัดไม่สามารถกำจัดได้หมด
ประเภทของเครื่องกรองน้ำ
เครื่องกรองน้ำ ในท้องตลาดมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน งบประมาณ และความต้องการของผู้ใช้
1. เครื่องกรองน้ำแบบใช้แร่ธรรมชาติ (Ceramic)
ใช้ไส้กรองเซรามิกเพื่อดักจับสิ่งสกปรก เหมาะกับผู้ที่ต้องการกรองเบื้องต้น
2. เครื่องกรองน้ำระบบคาร์บอน (Activated Carbon)
สามารถกรองกลิ่น สี และคลอรีนได้ดี ใช้ในบ้านทั่วไปเพื่อปรับรสชาติน้ำให้ดีขึ้น
3. เครื่องกรองน้ำระบบ UF (Ultrafiltration)
กรองสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็ก เช่น แบคทีเรียและไวรัสบางชนิดได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
4. เครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis)
เป็นระบบกรองละเอียดสูง สามารถกรองสิ่งสกปรกระดับโมเลกุล รวมถึงโลหะหนักได้ เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำคุณภาพต่ำ
5. เครื่องกรองน้ำระบบ UV (Ultraviolet)
ใช้แสงอัลตราไวโอเลตฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นิยมใช้ร่วมกับระบบกรองอื่นๆ
การเลือกเครื่องกรองน้ำให้เหมาะสม
การเลือก เครื่องกรองน้ำ ที่เหมาะสมกับบ้านหรือธุรกิจควรพิจารณาหลายปัจจัย ดังนี้:
- คุณภาพน้ำในพื้นที่: ควรทดสอบน้ำก่อนเพื่อเลือกเครื่องกรองที่ตอบโจทย์
- ปริมาณการใช้น้ำต่อวัน: มีผลต่อขนาดและประเภทของเครื่องกรองที่ควรใช้
- งบประมาณ: แต่ละระบบมีราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น
- การดูแลรักษา: ไส้กรองแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานต่างกัน ควรเลือกแบบที่เปลี่ยนง่ายและมีอะไหล่
ประโยชน์ของการใช้เครื่องกรองน้ำ
1. น้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย
การมี เครื่องกรองน้ำ ช่วยให้มั่นใจว่าน้ำดื่มในบ้านปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่อาจก่อให้เกิดโรค
2. ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
แม้ว่าเครื่องกรองน้ำจะมีต้นทุนเริ่มต้น แต่เมื่อเทียบกับการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดต่อเนื่องแล้วถือว่าประหยัดกว่ามาก
3. ป้องกันโรคที่เกิดจากน้ำ
เช่น โรคท้องเสีย ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค หรือพยาธิที่มาจากน้ำไม่สะอาด
4. ยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า
น้ำที่ผ่านการกรองจะไม่มีตะกรันหรือสิ่งสกปรก ทำให้เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องชงกาแฟ หรือเครื่องซักผ้าเสียหายน้อยลง
การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำ
แม้ว่า เครื่องกรองน้ำ จะช่วยให้เราได้น้ำสะอาด แต่หากไม่ดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ก็อาจส่งผลตรงกันข้าม ดังนั้นควร:
- เปลี่ยนไส้กรองตามรอบที่ผู้ผลิตแนะนำ
- ล้างทำความสะอาดตัวเครื่องเป็นประจำ
- ตรวจสอบคุณภาพน้ำหลังการกรองอย่างสม่ำเสมอ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำ
1. เครื่องกรองน้ำสามารถกรองไวรัสได้หรือไม่?
ระบบ RO และ UV สามารถกรองไวรัสและเชื้อโรคขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เครื่องกรองน้ำต้องใช้ไฟฟ้าหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่อง ระบบ UF และ Carbon ไม่ใช้ไฟฟ้า ส่วนระบบ RO และ UV ต้องใช้ไฟ
3. อายุการใช้งานของไส้กรองคือกี่เดือน?
โดยทั่วไปอยู่ที่ 6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานและคุณภาพน้ำดิบ
เครื่องกรองน้ำ คือการลงทุนเพื่อสุขภาพในระยะยาว ทั้งช่วยกรองสิ่งปนเปื้อน ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอีกด้วย การเลือกเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสม และดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะทำให้คุณและครอบครัวสามารถใช้น้ำที่สะอาดได้ทุกวันอย่างมั่นใจ
หากคุณกำลังมองหา เครื่องกรองน้ำ ที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะกับความต้องการของบ้านคุณ อย่าลืมเปรียบเทียบข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่คุณรัก